Select Page
3 ร้านที่ต้องไปเมื่อมาเยือน Akihabara

3 ร้านที่ต้องไปเมื่อมาเยือน Akihabara

 

อากิฮาบาระ เป็นแหล่งที่รู้จักกันดีหากคุณเป็นคนที่ชอบการ์ตูน ของเล่น และเกม ร้านที่นี่มีเยอะแยะมากมายจนคุณเดินได้ทั้งวันไม่รู้จบ แต่ถ้าคุณมาที่นี่ครั้งแรกอาจจะตั้งตัวไม่ถูก วันนี้เลยขอแนะนำ 3 ร้านที่ควรไปเมื่อคุณมาถึงอากิฮาบาระ

 

เริ่มจากร้านแรกกันก่อน

 

3-must-go-akihabara-01

 

เพียงเดินแค่ 10 วินาที จากสถานี Akihabara ด้วยทางออก Denkigai-guchi exit (“Electric Town Exit”) คุณจะเจอกับร้าน GAMERS ร้านหนังสือการ์ตูนร้านแรกที่คุณควรลองแวะดูจ้า

 

3-must-go-akihabara-02

 

ร้าน GAMERS เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการ์ตูนที่ออกตามช่วงต่างๆ รวมไปถึงที่นี่ยังมีเกม และสินค้าพรีเมี่ยมจากการ์ตูนจำหน่ายอีกด้วย และที่ชั้น 1 ของร้านจะมีการ์ตูนใหม่ๆสนุกๆวางขายอยู่เพียบเลย

 

ร้านที่ 2 แด่คนรักโดจิน ร้าน Toranoana

 

ร้านนี้เป็นร้านรวมโดจิน หรือ Dōjin-shi ที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ (โดจิน เป็นการ์ตูนที่วาดล้อเลียน หรือได้ reference มาจากการ์ตูนจริงๆส่วนมากจะวาดโดยแฟนคลับ) ถึงแม้ว่าโดจินจะมีราคาถูกกว่าหนังสือการ์ตูนลิขสิทธิ์ปกติ แต่ว่าคุณภาพของโดจินที่วางขายที่นี่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวล่ะ

 

3-must-go-akihabara-03

 

สำหรับร้าน Toranoana นั้นจะอยู่บนถนน Chū-ō จะมีด้วยกันอยู่ 3 ตึกเลย โดยรูปด้านบนนี้เป็นตึก A ส่วนตึก B จะอยู่ใกล้ๆกัน ที่ตึก A จะขายพวกโดจิน แมกกาซีน นิยาย ส่วนตึก B นั้นจะขาย CD, DVDs, และ Blu-rays

 

3-must-go-akihabara-04

 

ตึก C จะอยู่บนชั้น 3 ของร้าน Sofmap ที่นี่จะวางขายสินค้าที่เกี่ยวกับการ์ตูนและโดจิน ส่วน Sofmap นี่เป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด รวมไปถึงยังมีของเล่น และเกมด้วยค่า

 

3-must-go-akihabara-05

ภาพที่เห็นนี้เป็นกองหนังสือโดจินที่ถ้ามองผ่านๆนึกว่าหนังสือการ์ตูนลิขสิทธิ์ซะอีก

 

ร้านที่ผู้หญิงหลงรัก Animate

 

3-must-go-akihabara-06

 

หากคุณเดินผ่านร้านนี้คงคิดว่าเป็นร้านการ์ตูนธรรมดาทั่วไป จะบอกแบบนั้นก็คงไม่ผิด เพราะร้าน Animate มีหนังสือการ์ตูน สินค้าจากการ์ตูนวางขายอยู่เพียบ แต่ถ้าคุณดูดีๆร้านนี้จะเน้นขายการ์ตูนและสินค้าที่ผู้หญิงชื่นชอบ โดยเฉพาะการ์ตูนที่มีตัวละครผู้ชายอยู่เยอะ หรือกระทั้งการ์ตูนแนวกีฬา กลุ่มลูกค้าของร้านนี้ส่วนมากจึงเป็นผู้หญิง เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการ์ตูนสุภาพสตรีเลยทีเดียว

 

3-must-go-akihabara-07

 

เป็นยังไงกันบ้าง ถูกอกถูกใจกันบ้างไหมคะ? นอกจากการช้อปปิ้งแล้วร้านเหล่านี้ยังมีเก็บสะสมแต้มเพื่อแลกส่วนลด หรือสินค้าพิเศษลิมิเต็ดได้อีกมากมายเลยด้วยนะคะ

 

3-must-go-akihabara-08

 

อย่างภาพด้านบนนี้เป็นตู้โชว์สินค้าพรีเมี่ยมจากร้าน GAMERS มีสินค้าหลากหลายชนิดเลย และของเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆอีกด้วย ทำให้ลูกค้าแต่ล่ะคนต้องแวะมาส่องอยู่อย่างสม่ำเสมอเลย และนี่คือ 3 ร้านที่อยากแนะนำสำหรับผู้ที่อยากจะเริ่มต้นเดินอากิฮาบาระ แต่ทั้งนี้ความชอบและจุดมุ่งหมายของแต่ล่ะคนนั้นไม่เหมือนกัน ลองเดินดูรอบๆอากิฮาบาระซักรอบสองรอบ รับรองว่าคุณจะเยอะร้านเล็กร้านน้อยเยอะแยะมากมาย เรียกว่าตาลายอย่างเพลินเพลินแน่นอนจ้า

 

ที่อยู่ของทั้ง 3 ร้านที่แนะนำ

 

Akihabara Gamers

 

Address: Tokyo, Chiyoda-ku, Soto-Kanda 1-14-7 Takarada building
Access: JR Akihabara Station (Denkigaiguchi exit); 10-minute walk from the Akihabara Station (Exit 2) on the Tokyo Metro Hibiya Line
Opening hour: 1F – 9:00 – 22:00, 2 – 7F – 10:00 – 21:00
Phone:03-5298-8720
Official Website: GAMERS (Japanese)

 

 

Toranoana Akiba

 

Address: Tokyo, Chiyoda-ku, Soto-kanda 4-3-1 Building A,B; Soto-kanda 3-13-8 Tsunoda Building 3F-4F Building C.
Access: 3-minute walk from JR Akihabara Station (Denkigai-guchi exit)
Opening hours: 10:00 – 22:00
Phone: 0800-1004-315
Official Website: Toranoana (Japanese)

 

 

Animate Akihabara

 

Address: Tokyo, Chiyoda-ku, Soto-kanda 4-3-2
Access: a 3-minute walk from JR Akihabara Station (Denkigai-guchi exit)
Opening hours: 10:00 – 21:00
Phone: 03-5209-3330
Official Website: Animate (Japanese)

 

by: SweetChefEmmie

thanks: mcha-jp

 

 

Dragon Ball Xenoverse 2 ประกาศเตรียมลงให้กับ PS4, Xbox One และ PC

Dragon Ball Xenoverse 2 ประกาศเตรียมลงให้กับ PS4, Xbox One และ PC

Bandai Namco ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าตัวเกม Dragon Ball Xenoverse 2 นั้นจะเตรียมลงให้กับ PS4, Xbox One, และ PC ในช่วงปี 2016 อย่างแน่นอน พร้อมทั้งเตรียมเผยตัวเกมนี้ให้ได้รับชมกันในงาน E3 ช่วงวันที่ 14 – 16 มิถุนายน 2016

ตัวเกม Dragon Ball Xenoverse นั้นจะเป็นเรื่องราวของตัวเราเองที่มีหน้าที่ต้องปกป้องประวัติศาสตร์ของ Dragon Ball ที่คุณรู้จักกันดีให้กลับเข้าที่เข้าทางของตัวมันเองทำให้ตัวเกมนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และแน่นอนว่าตัวเกมในภาค 2 นั้นตัวผมเองก็จะไม่พลาดที่จะซื้อมาเล่นอย่างแน่นอน

ปัจจุบันตัวเกม Dragon Ball Xenoverse 2 นั้นกำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาอยู่ครับ

 

วิธีดูกระเป๋า Anello ของแท้ vs ของปลอม

วิธีดูกระเป๋า Anello ของแท้ vs ของปลอม

 

กระเป๋าเป้ Anello ตอนนี้ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง เรียกว่ากระแสดีมาก อาจจะด้วยรูปทรงที่ไม่เหมือนเป้ทั่วๆไป มีหลากหลายสีสันให้ได้เลือกหิ้วเป็นแฟชั่นเก๋ๆแล้วยังมาจากแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการันตีถึงคุณภาพเต็มๆอีกด้วย แต่เนื่องจากว่ากระเป๋า Anello ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นต้องยอมรับว่าเป็นกระเป๋าที่ราคาไม่แพง ซึ่งทางแบรนด์เองก็ได้ให้ทางโรงงานที่ประเทศจีนเป็นผู้ผลิต และรูปแบบก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะทำก้อปปี้ ในปัจจุบันเลยมีเป้ Anello ของปลอมระบาดไปทั่วบ้านทั่วเมืองเยอะพอๆกับของแท้เลย

 

วันนี้ทาง Japanmase เลยอยากจะแนะนำข้อเปรียบเทียบ และวิธีการดูของแท้ กับของปลอมกันว่ามันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง *แต่ทั้งนี้เนื่องจากของปลอมมีหลายเกรด หลายโรงงานมากๆ ผมเลยขอเปรียบเทียบให้หลากหลายข้อซักนิด เพื่อที่จะดูได้ไม่จุดใดก็จุดหนึ่งที่แตกต่างครับ เรามาชี้เป้ากันเลยดีกว่า

 

1. เรื่องของราคา

เริ่มกันที่ราคา เนื่องจากเป้ Anello ที่ขายอยู่ที่ญี่ปุ่นมีราคาตั้งแต่ 4500 เยนไล่ไปเรื่อยๆจนถึง 5300 เยน เพราะฉะนั้นราคาที่แม่ค้าขายกันก็ไม่น่าจะต่ำมาก ถ้าเห็นขายกันหลักร้อย หรือพันต้นๆบอกได้เลยว่าปลอมแน่นอนจ้า

 

2. วัสดุ และขนาด

ถ้าเคยจับเป้ Anello ของจริงมาก่อนจะรู้ว่าผ้าของปลอมมีความแตกต่างพอสมควร ของปลอมจะเป็นผ้าที่แข็งมาก รูปทรงจะแข็งเป๊กดัดไปในทิศทางไหนไม่ได้เลย ผิดกับของแท้ที่มันจะนุ่มกว่า และผ้าบางกว่าในระดับนึง ส่วนขนาดของปลอมจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่ไม่เล็กเกิน ก็ใหญ่เกิน แต่ของจริงจะขนาดพอดีที่ 40 x 27 x 17 ซม. สำหรับขนาดปกติ

 

anello-real-fake-01

 

3. บริเวณซิบ

หนังบริเวณมุมสุดของซิบตรงช่องใหญ่ กับหนังที่รัดมากับที่ดึงซิบกระเป๋าหน้า ของแท้มักมีสีที่เข้มกว่าของปลอม และบริเวณหนังที่ 2 ที่จะต้องมีพลาสติกหุ้มอยู่ด้วย ซึ่งของปลอมนั้นไม่มีจ้า

 

anello-real-fake-02

 

4. โลโก้

โลโก้ผ้าที่แปะอยู่ด้านหน้ากระเป๋า Anello นั้น ของแท้จะต้องเป็นขวด 2 ใบไขว้กัน และส่วนสี่เหลี่ยมที่ตัดกันจะต้องเห็นเด่นชัด คม ไม่เหมือนของปลอมที่อาจจะไม่ชัดบ้าง เส้นหายไปบ้าง

 

5. ปีบนป้ายกระดาษ

สำหรับป้ายกระดาษที่ติดห้อยมากับกระเป๋านั้น ให้สังเกตุตรงปี ว่าตรงกับที่ป้ายผ้าบนกระเป๋าหรือเปล่า เพราะของแท้ทั้งบนตัวกระเป๋า กับป้ายกระดาษจะต้องเป็น  2005 ไม่ใช่ 2004 ที่ป้าย

 

anello-real-fake-03

 

6. รายละเอียดบนป้ายกระดาษ

รายละเอียดของฟ้อนต์ต่างๆบนป้ายกระดาษ ของแท้มักจะมีตัวอักษรที่คมกว่าและตัวไม่หนาเท่ากับของปลอม และรายละเอียดบนป้ายถูกต้อง ทั้งราคา และสี ซึ่งสีจะใช้เป็นตัวอักษรย่อ และของแท้ที่ด้านบนป้ายจะต้องมีบอก Follow us on Instagram! @anello_bag ด้วยซึ่งของปลอมบางทีจะไม่มี ส่วนบางคนที่ซื้อมาอาจจะไม่เจอป้ายนี้ เนื่องจากบางร้านเค้าจะแกะป้ายอันนี้ออก เนื่องจากมีราคาติดมาอยู่ด้วยจ้า

 

anello-real-fake-04

 

7. กระดุมรัดสายหิ้ว

กระดุมที่อยู่บนตัวรัดสายหิ้วเป้ จะมีลายดาว 6 ดาวอยู่ ของแท้จะมีแค่ดาว ส่วนของปลอมนั้นอาจจะมีรูป หรือตัวอักษรอื่นที่ไม่ใช่ดาวติดมาด้วย

 

8. ซิบ

ตัวดึงซิบ ของแท้นั้นจะเป็นสีทองเหลือง ลักษณะผอมยาวสมส่วน แต่ของปลอมนั้นบางทีอาจจะอ้วนสั้น หรือเป็นสี่เหลี่ยมเลยก็มี

 

anello-real-fake-05

 

9. ทรงของเป้

เรื่องของทรงบางทีก็ดูยาก เพราะของปลอมมีวัสดุหลายแบบ แต่ขอบอกเป็นแนวทางละกันครับ คือ ของแท้จะจัดเป็นทรงง่าย ผิดกับของปลอมที่ไม่แข็งเป๊ก ก็จะอ่อนปวกเปียกไปเลยจ้า

 

anello-real-fake-06-1

 

10. รายละเอียดป้ายด้านในกระเป๋า

ป้ายด้านในกระเป๋าอันเดิมกับข้อเมื่อกี้ ของแท้ที่ด้านหลังป้ายจะมีระบุ ปีเดือนวัน ที่ผลิตเอาไว้ ส่วนของปลอมด้านหลังจะว่างเปล่า

 

anello-real-fake-06-2

 

11. รหัสของกระเป๋า

สำหรับเป้ Anello ล็อตหลังๆ ตั้งแต่วันที่ 20/11/2015 เป็นต้นมา ตัวรหัสที่อยู่บนป้ายกระดาษห้อยนั้นจะมีตัว A ต่อท้ายด้วยจ้า

 

anello-real-fake-07

 

12. ความน่าเชื่อถือของร้าน

ก่อนจะซื้อกระเป๋า Anello จากร้านไหน อย่าลืมเช็คประวัติ หรือดูรายละเอียดร้านกันให้ดีก่อน ไม่ใช่เห็นว่าถูกก็หน้ามืดตามัวสั่งซื้อเลยทันที เพราะปัจจุบันของปลอมระบาดหนักมาก ไม่อยากจะให้เสียใจภายหลังกันนะจ๊ะ ^^

 

anello-real-fake-HARAJUKU

FB :: HarajukuStreet

 

anello-real-fake-08

 

anello-real-fake-09

 

Credit: katsura1213.pixnet.net