ถ้าคุณต้องการความประหยัด และความรวดเร็ว แน่นอนครับต้องขึ้นรถไฟญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ว่ารถไฟของญี่ปุ่นนั้นมีเยอะแยะมากมายหลายชนิดมากๆ ขนาดรางเดียวกันยังมีรถไฟหลายแบบจอดชานชะลาเดียวกันซะอย่างงั้น ส่วนมากนักท่องเที่ยวอย่างเราๆนั้นมักขึ้นผิดเป็นประจำ หรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเองยังมีปัญหาเรื่องขึ้นรถไฟอยู่บ้างพอสมควร เพราะฉะนั้นจะเป็นการดีที่เราจะมาทำความรู้จักกับรถไฟแต่ล่ะชนิดโดยเน้นที่โตเกียวกันจ้า
1.รถไฟ JR
ที่โตเกียวมีบริษัทเดินรถไฟอยู่หลายรายที่ให้บริการอยู่ หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านนี้คือ JR (Japan Railway) เป็นบริษัทที่มีรถไฟให้บริการมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ยิ่งในเมืองจะมีรถไฟหลากหลายแบบให้บริการอยู่
รถไฟที่ไม่มีค่าบริการพิเศษ
普通 (Local): รถไฟแบบหวานเย็น จอดทุกสถานี
快速(Rapid): รถไฟที่จอดน้อยสถานีกว่าแบบ Local อยู่นิดนึง
通勤快速 (Commuter Express): รถไฟที่ให้บริการเฉพาะช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น ทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็น โดยรถไฟแบบนี้จะหยุดสถานีน้อยกว่าแบบ Rapid และให้บริการเพียงแค่บางสายเช่น Chūō Line, Keiyō Line, และ Saikyō Line
特別快速 (Special Rapid): รถไฟแบบนี้จะหยุดน้อยสถานีกว่า Commuter Express อีก จะมีบริการส่วนมากที่สาย Chūō Line และ Sōbu Line โดยรถไฟแบบนี้ยังแยกย่อยออกไปอีกหลายชนิดเช่น commuter special rapid train, Chūō special rapid train, และ Ōme special rapid train
รถไฟที่มีค่าบริการพิเศษ
特急 (Limited Express): เป็นรถไฟที่จอดป้ายน้อยที่สุด และจะพาคุณไปถึงสถานีจุดหมายได้เร็วที่สุด เพียงแต่จะต้องมีค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับรถไฟแบบนี้
2. Private Railways (รถไฟเอกชนทั่วไป)
รถไฟประเภทนี้มีหลากหลายแบบเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และจุดหมายของผู้ใช้บริการครับ
普通 (Local): รถไฟแบบจอดทุกสถานี บางทีรถไฟแบบนี้จะมีคำว่า 各駅停車 “รถไฟขบวนนี้จอดทุกสถานี” บอกอยู่ที่ตัวรถไฟ ต้องสังเกตุดีๆ
準急 (Semi-Express, Local Express): รถไฟแบบนี้จอดสถานีน้อยกว่าแบบ Local แต่มาบ่อยกว่าแบบ Rapid
快速 (Rapid): รถไฟแบบนี้จอดสถานีน้อยกว่าแบบ Semi-Express แต่มาบ่อยกว่าแบบ Express และสามารถใช้ตั๋วปกติได้
急行 (Express): รถไฟแบบนี้จอดสถานีน้อยกว่าแบบ Rapid และมาบ่อยกว่าแบบ Limited Express ในบางครั้งสามารถนั่งได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่อาจจะมีข้อแม้บางอย่างขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ
特急 (Limited Express): รถไฟแบบที่จอดสถานีน้อยที่สุด เร็วที่สุด เช่นเดียวกัน ในบางครั้งสามารถนั่งได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่อาจจะมีข้อแม้บางอย่างขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ
เราสามารถเรียงความเร็วได้ตามลำดับแบบนี้เลยครับ limited express > express > rapid > semi-express > local
และในบางครั้งยังมีรถไฟแบบ commuter rapid train ยิ่งเช้าและเย็น รวมไปถึง holiday rapid train วิ่งในวันหยุดอีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนขึ้นโปรดสังเกตุดูที่รถไฟ หรือที่ป้ายด้วยจ้า
เรื่องของรถไฟสำหรับคนที่เดินทางในโตเกียว
Yamanote Line
Yamanote Line จะวิ่งรอบโตเกียวเป็นเส้นวงกลม ผ่านสถานีหลักๆและแหล่งท่องเที่ยวมากมายและทั่วถึง สิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือ เรื่องของรถไฟว่าวิ่งไปทางไหน ถึงแม้สายนี้จะวิ่งเป็นวงกลม แต่รถไฟนั้นมีวิ่งสองทาง ถ้าเราขึ้นผิดจะทำให้เราอ้อมโตเกียวไปรอบนึงเลยทีเดียว
Chūō Line
Chūō Line เชื่อมต่อสถานี Tōkyō, Shinjuku, Nakano และ Kichijōji รวมไปถึงสถานียิบย่อยอื่นๆ โดยที่ Kichijōji นั้นเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวโตเกียว และยังเป็นสถานที่ตั้งของ Inokashira Park อีกด้วย ส่วนมากเราจะเข้าใจผิดว่ารถไฟทุกขบวนจะจอดที่ Kichijōji แต่จริงๆแล้ว Special Rapid Train จะไม่จอดที่สถานีนี้ ถ้าจะมาที่นี่แนะนำให้ใช้แบบ Rapid Train แทน
รถไฟในญี่ปุ่นนั้นส่วนมากจะทำให้เราสับสนเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยความซับซ้อนของสาย และชนิดของรถไฟ ถ้าเรารู้และเข้าใจเรื่องชนิดของรถไฟมากขึ้นจะทำให้เราขึ้นรถไฟเที่ยวในญี่ปุ่นได้อย่างเพลิดเพลิน โดยเฉพาะในโตเกียวที่มีความซับซ้อนสูงมากครับ ^^
by: JaK_Moshi
thanks: mcha-jp
You must be logged in to post a comment.