Northern Kyushu – Backpack Edition ตอนที่ 5: Nagasaki – Peace Park – Huis Ten Bosch – Fukuoka

Northern Kyushu – Backpack Edition ตอนที่ 5: Nagasaki – Peace Park – Huis Ten Bosch – Fukuoka

สำหรับแผนการของเราในวันนี้นะครับ จะพาทุกท่านเดินทางไปชมพิพิธพรรณสันติภาพที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สหรัฐอเมริกาทำการทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่นที่เมือง นางาซากิ นะครับ เริ่มต้นตื่นตอนเช้าเราก็เดินทางไปยังสวนสันติภาพเลยครับ ท้องฟ้าวันนี้ไม่เป็นใจสักเท่าไร ฝนตกพรำ ๆ ท้องฟ้าปิดตลอด การไปทางสวนสันติภาพเราเดินทางโดยรถรางภายในตัวเมืองเช่นเคยครับ

IMG_0606

หลังจากลงจากรถรางเราก็เกือบถึงเป้าหมายเราแล้วครับ เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งจะเจอทางขึ้นไปยังสวนสันติภาพแล้ว

IMG_0608 IMG_0609 IMG_0612 IMG_0617 IMG_0615 IMG_0624 IMG_0621

หลังจากนั้น ฝนเริ่มจะตกหนักแรงขึ้นแล้วครับ เราต้องหาสถานที่ไปต่อ ก็คือเราจะไป Atomic Bomb Museum นะครับ ระหว่างทางก็จะพบกับลานที่โดนระเบิดลงด้วย ซึ่งตอนนี้สภาพจัดไว้สวยงามมากครับ ไม่บอกไม่รู้เลยว่าสถานที่นี้คือสถานที่ที่โดนระเบิดปรมาณูลงมาก่อน

IMG_0636 IMG_0641-2 IMG_0644

เนื่องจากภายในพิพิธภัณฑ์ไม่ให้เราถ่ายรูปนะครับ ซึ่งเราก็ต้องเชื่อฟังสถานที่ ดังนั้นเราจึงถ่ายป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์มาให้ชมกันครับ ฮ่า ๆ

IMG_0650

หลังจากที่รับชมประวัติของที่นี้กันเสร็จแล้ว เป้าหมายต่อไปเราจะพาทุกท่านไปโบสถ์แถว ๆ นั้นกันก่อนครับ ก่อนที่เราจะกลับไปสถานีนางาซากิเพื่อที่จะขึ้นรถไฟไปยัง Huis Ten Bosch

IMG_0667

IMG_0681

หลังจากหลับ ๆ ตื่น ๆ บนรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เราก็ถึงจุดหมายต่อไปแล้วนะครับ คือ Huis Ten Bosch นั่นเอง ซึ่งเป็นเมืองจำลองมาจากฝั่งยุโรปนะครับ สวยงามคุ้มค่าแก่การเข้าไปชมมากครับ (ค่าเข้าชมแอบแพงเหมือนกัน)

IMG_0685 IMG_0690 IMG_0700 IMG_0711 IMG_0727 IMG_0747 IMG_0762

อยู่ที่นี่จนคุ้มค่าเข้าชมแล้วฮะ ถึงเวลาที่ต้องบ้ายบายสถานที่แห่งนี้แล้วเดินทางต่อไปยังเป้าหมายสุดท้ายของวันนี้ คือเมือง Fukuoka ครับ เราก็นั่งรถไฟต่อจากที่นี้ตรงถึงเมือง Fukuoka เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็จะมาถึงเมืองหลวงแห่งเกาะคิวชูแล้วครับ

IMG_0791

หลังจากเดินทางมาถึงสถานี Fukuoka ฝนก็ตกอีกแล้วครับ แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา เดินลุยฝนเพื่อไปหาที่พักสำหรับคืนนี้ครับ

IMG_0794

เดินสักครึ่งชั่วโมงจากสถานีก็ถึงที่พักแล้วครับ สำหรับคืนนี้นอนที่ Fukuoka Hana Hostel เป็นที่พักกึ่ง ๆ หอพักครับ ซึ่งถ้ามีเวลาหน่อยสถานที่นี้จะเป็นแหล่งพบปะผู้คนใหม่ ๆ ได้ดีทีเดียวเลยครับ เพราะว่าจะมีพื้นที่ส่วนรวมให้สำหรับนั่งทำงาน ดูโทรทัศน์ร่วมกับเพื่อนคนอื่น

IMG_0796

ส่วนที่นอนของเรานะครับ นอนกันสามคนห้องเดียวกันช่างอบอุ่นดีแท้ ฮ่า ๆ

IMG_0798

หลังจากวางข้าวของไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็ไปหาอะไรทานกันครับ ซึ่งจะพาทุกท่านไปทานร้านแผงลอยชื่อดังของย่านนี้ มีชื่อว่า Yatai ครับ เป็นแหล่งขึ้นชื่อของที่นี่เลยทีเดียว คนขายไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ก็พยายามที่จะสื่อสารกับพวกเราครับ เราก็พยายามสื่อสารเพื่อจะสั่งของกินเหมือนกัน ฮ่า ๆ

IMG_0801 IMG_0799 IMG_0806

หลังจากที่เราอิ่มแล้ว ก็ทำการเดินกลับที่พักครับ ระหว่างทางกลับก็เจอโซนท่องเที่ยวยามราตรี ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นสถานที่ยังไง ฮ่า ๆ

IMG_0807

หลังจากนั้นเราก็ซื้อของจาก Minimart เพื่อเข้าไปปาร์ตี้ต่อในห้องนอนครับ สิ้นสุดคืนนี้เพียงเท่านี้

Northern Kyushu – Backpack Edition ตอนที่ 4: Kumamoto – Kumamoto Castle – Former Hosokawa Residence – Nagasaki

Northern Kyushu – Backpack Edition ตอนที่ 4: Kumamoto – Kumamoto Castle – Former Hosokawa Residence – Nagasaki

เช้าวันนี้ตื่นมาเวลประมาณ 06.30 น. ครับ ทำการเก็บข้าวของไว้และลงไปทานอาหารเช้าที่โรงแรม  โปรแกรมวันนี้ยาวเลยครับ อันดับแรกไปเยี่ยมชม ปราสาทคุมาโมโต้กันก่อนเลยแล้วกัน ก่อนจะเดินทางเราจึงขอฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมซะก่อน แล้วจึงออกเดินทาง

การเดินทางจากโรงแรมที่เราพักไปยังปราสาทคุมาโมโต้เราจะไปโดยรถรางครับ ประวัติคร่าว ๆ ของปราสาทคุมาโมโต้ ขออนุญาติอ้างอิงมาจาก wikipedia นะครับ

ปราสาทคุมะโมะโตะได้่เริ่มสร้างขึ้นอย่างจริงจังจนเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1601 โดยดำริของ คะโต คิโยะมะซะ เจ้าแห่งคุมะโมะโตะ เพื่อใช้เป็นป้อมปราการ จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1607 พื้นที่อาณาบริเวณของปราสาทยาวประมาณ 9 กิโลเมตร ตัวปราสาทมีป้อมปืน 49 ป้อม ประตูป้อมปืน 18 ประตู และประตูขนาดเล็ก 29 ประตู มีหอคอยสูง 2 หอ ทำให้สามารถมองได้รอบทิศจากมุมสูง หอใหญ่จะสูง 30.3 เมตร หอเล็กสูง 19 เมตร ปราสาทหลังเดิมถูกเพลิงไหม้เสียหายในปี ค.ศ.1877 ต่อมาได้สร้างใหม่ในปี ค.ศ.1960

ในการนั่งรถรางนี้เราจะไปลงที่สถานี Kumamoto Castle เลยนะครับ

IMG_0321

พอถึงสถานีเราจะมาโผล่ตรงทางด้านข้างของปราสาทนะครับ ทางด้านข้างของปราสาทนั้นจะปลูกต้นซากุระ เรียงรายเลยครับ  เป็นซากุระที่แรกที่ได้พบตั้งแต่มาเที่ยวญี่ปุ่นเลย แต่ช่วงบานใหม่ ๆ ซากุระจะค่อนข้างขาวอยู่ครับ

IMG_0329

IMG_0331

IMG_0337

ตื่นเต้นกับซากุระมากครับ อยู่ถ่ายรูปกันเพลินจนเกือบลืมเป้าหมายหลักของเราเลย ฮ่า ๆ เดินตามทางไปเรื่อย ๆ เราจะพบกับทางเข้าของปราสาทแล้วครับ

IMG_0346

ตั๋วเข้าชมปราสาทมี 2 แบบนะครับ แต่ผมฟังไม่ค่อยออก แต่ตามแผนการของเราคือจะไป Kumamoto Castle – Former Hosokawa Residence เลยเลือกซื้อตั๋วที่เข้าชมได้ของทั้งสองที่ไปนะครับ หน้าตาตั๋วก็ประมาณนี้ครับ

IMG_0347

สภาพอากาศที่ญี่ปุ่นค่อนข้างเดาใจยากมากครับ เดี๋ยวท้องฟ้าสดใส สักพักนึงเมฆฝนมาครึ้มแล้ว การถ่ายรูปให้ท้องฟ้าออกมาเป็นสีฟ้านั้น ค่อนข้างยากครับ เราจึงใช้ทักษะการโกง แอบมาดึงสีฟ้าให้โปรแกรม Photoshop Lightroom สักหน่อย

เดินตรงเข้ามาสักพักก็พบปราสาทแล้วครับ แต่เป็นด้านหลังของปราสาท

IMG_0352

ส่วนรูปต่อไปนี้คือป้อมปราสาท Uto Turret ที่เหลือรอดจากการถูกโจมตีนะครับ

IMG_0351

เดินอ้อมมาสักพักจะพบด้านหน้าของปราสาทแล้วครับ ซึ่งมีผู้คนมาชมเยอะมาก รวมทั้งคนไทยก็มีมาบ้างเช่นเดียวกัน

IMG_0356-2

ส่วนรูปนี้คือเจ้าปราสาทน้อยครับ เป็นสิ่งที่ไม่ว่างอยู่ตลอดเวลา หาโอกาสที่จะถ่ายรูปเดี่ยว ๆ ไม่ได้เลย

IMG_0360

ภายในปราสาทส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ยังหลงเหลือของปราสาทนะครับ แต่ทางนั้นไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปออกมา เราเลยขึ้นไปด้านบนสุดของปราสาทถ่ายภาพวิวมาให้ชมกันครับ

IMG_0371

เดินออกจากปราสาทมาทางขวามือจะมีสถานที่หนึ่ง น่าจะเป็นสถานที่จัดแสดงห้องจำลองของตัวปราสาทนะครับ เข้าไปรับชมภาพกันได้เลย

 IMG_0375 IMG_0376 IMG_0378 IMG_0379 IMG_0380 IMG_0382 IMG_0388 IMG_0389

IMG_0383-2

หลังจากนั้นเราก็จะพาไปชมรอบ ๆ ปราสาทกันนะครับ ก่อนจะออกมาขอถ่ายรูปตัวปราสาทอีกสักรูปก่อนลาจาก

IMG_0394

รูปต่อไปนี้คือซากของปราสาทที่ยังหลงเหลือนะครับ

IMG_0401

เป้าหมายต่อไปของเราจะพาไปชม Former Hosokawa Residence ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของตระกูล Hosokawa ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ที่ครอบครองเมือง Kumamoto ในสมัย Edo นะครับ ตัวบ้านมีลักษณะเป็นบ้านพักของซามูไรในสมัยนั้น

IMG_0425

สถานที่นี่ค่อนข้างที่จะเงียบครับ ไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยมชมสักเท่าไรเลย บรรยากาศภายในเหมือนอยู่ในหนังญี่ปุ่นสมัยก่อนเลยครับ ตามมาชมภาพได้เลย

 IMG_0427 IMG_0428 IMG_0430 IMG_0431 IMG_0433 IMG_0436 IMG_0437 IMG_0445

หลังจากเยี่ยมชมได้สักพักก็เวลาประมาณ 11.00 น. ก็ต้องได้เวลาที่ต้องกลับแล้ว เนื่องจากว่าเราต้องนั่ง ชิงคันเซ็น เพื่อไปเมือง Nagasaki ในเวลาประมาณ 12.45 น.

ระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถราง บริเวณริมปราสาทคุมาโมโต้ก็เริ่มมีร้านขายของตั้งกันแล้ว

IMG_0459

หลังจากนั้นเราก็นั่งรถรางกลับมาถึงโรงแรมครับ เวลาประมาณเที่ยงได้ ก็ทำการรับกระเป๋าที่ฝากไว้แล้วทำการเดินทางไปสู่สถานีรถไฟเพื่อขึ้น ชิงคันเซ็นครับ โดยจะขึ้นจากเมือง Kumamoto ไปลงที่สถานี Shin-Tosu แล้วจะต่อรถด่วน Limited Express ไปยังเมือง Nagasaki ครับ

IMG_0475

เนื่องจากเวลากระชั้นชิดมาก เราเลยนั่งทานข้าวกล่องบนรถไฟนะครับ ซึ่งวิถีชีวิตส่วนใหญ่ของคนที่นี่ก็จะทานข้าวกล่องบนรถไฟเหมือนกัน

IMG_0479

รถไฟชิงคันเซ็นเร็วมากเลยครับ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงสถานี Shin-Tosu แล้ว เราก็เปลี่ยนขบวนที่นี่เพื่อที่จะไปเมือง Nagasaki ครับ

IMG_0490

นั่งรถไฟ Kamome ประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็มาถึงเมือง Nagasaki แล้วครับ เมืองนี้เป็นเมืองที่ถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย แต่ตอนนี้กลับเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง มีคนพลุกพล่านมากครับ หลังจากเดินทางมาถึงเราก็มุ่งหน้าหาที่พักเลยครับ เพื่อที่จะเก็บของแล้วจะได้เที่ยวภายในตัวเมืองต่อนิดหน่อย ที่พักคืนนี้เราค้างที่ Business Royal Hotel Nagasaki นะครับ หลังจากเช็คอินที่นี่แล้วทางโรงแรมมีบัตรส่วนรถสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวให้ด้วย

IMG_0498

ระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกแล้ว เราจะพาทุกท่านขึ้นกระเช้าไปยังยอดภูเขา Inasa กันนะครับ ภูเขาลูกนี้จะสามารถมองเห็นวิวของเมือง Nagasaki ได้อย่างสวยงาม ระหว่างเดินทางเกิดฝนตกหนักมาก ทำให้ท้องฟ้าค่อนข้างปิดและมีลมแรงมาก แต่เราไม่หวั่น เราเดินทางลุยมาถึงทางขึ้นกระเช้าจนได้

IMG_0543

ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกระเช้าจะพาไปถึงยอดเขาแล้วครับ ซึ่งบนนี้จะมีจุดชมวิวของเมือง มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก แบกขาตั้งกล้องมาถึงวันที่ 3 ได้โอกาสใช้งานนี้และ . . .  แต่ปัญหาก็เกิดครับ เนื่องจากว่าลมแรงมาก ขาตั้งกล้องยังเอาให้นิ่งไม่อยู่ ภาพต่อไปนี้อาจจะเบลอเล็กน้อย (ร้องไห้)

IMG_0548

IMG_0550

IMG_0592

หลังจากตากลม ตากฝนถ่ายภาพจนหนำใจ ร่างกายก็แบตหมดแล้วขับ แบกสังขารตัวเองพร้อมกับอุปกรณ์ถ่ายรูปอีก 10 กิโล เดินกลับโรงแรมเพื่อชาร์จแบตเตรียมตัวสำหรับวันต่อไป  ติดตามตอนต่อไปใน Part 5 ได้เลยครับ ภาพส่งท้ายสำหรับ Part นี้ คือโรงแรมที่เราใช้พักผ่อนสำหรับคืนนี้นะครับ

IMG_0600

Northern Kyushu – Backpack Edition ตอนที่ 3: Beppu – น้ำพุนรก – Mt.Aso – Kumamoto

Northern Kyushu – Backpack Edition ตอนที่ 3: Beppu – น้ำพุนรก – Mt.Aso – Kumamoto

วันที่ 2 ของการเดินทางที่ญี่ปุ่นนะครับ วันนี้มีแผนว่าจะไปเที่ยวชมน้ำพุนรก และปากปล่องภูเขาไฟ Aso ตื่นเช้ามาเราจึงขอเดินเที่ยวชมเมือง Beppu ก่อนลากันซะหน่อย

IMG_0092

IMG_0100

IMG_0106

IMG_0116

เที่ยวชมเมืองได้พอสมควรแล้ว แล้วก็จะทำการเดินทางไปเที่ยวชมน้ำพุนรกก่อน โดยเราได้เดินทางไปยัง Information ของสถานี Beppu เพื่อสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวที่น้ำพุนรก เราไปรอ Information เปิดแต่ก็พบว่า มีคนมารอก่อนหน้าเราแล้ว หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปสอบถามข้อมูล สรุปได้ว่า เราจะต้องซื้อตั๋วรถเมล์แบบ 1 วัน ขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ต้องนี้ขอแนะนำว่า ถ้าเรานำบัตรนิสิต บัตรนักเรียน จากประเทศไทยมา สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ด้วย ส่วนตั๋วเข้าชมน้ำพุนรก สามารถซื้อได้ที่หน้าบ่อเลยครับ

IMG_0125

การนั่งรถเมล์เหมือนเดิมครับ รถจะมาตรงเวลา แต่ตอนนี้แปลกตรงที่เราไม่ต้องจ่ายเงินตอนลงแล้ว (โชว์บัตรเบ่ง 1 วัน ที่ซื้อมาจากสถานีเบปปุได้เลย) น้ำพุนรกนี้จะมีทั้งหมด 8 บ่อครับ โดยแบ่งเป็นเขตแรก 6 บ่อ และอีกเขตนึกต้องนั่งรถเมล์ต่อไปอีกหน่อยอีก 2 บ่อ มาเริ่มต้นกันเลย หลังจากที่เรานั่งรถเมล์ไปถึงเขตแรกแล้ว ก็ทำการหาบ่อน้ำพุบ่อแรกเลยครับ ซึ่งตอนผมไปอาศัยเดินตามคนข้างหน้าเอา เพราะสังเกตแล้วว่าเค้าเดินทางมาชมบ่อน้ำพุนรกเหมือนกัน

IMG_0126

IMG_0130

เดินตามมาสักพักก็ถึงจุดขายตั๋วแล้วครับ เป็นแบบเหมาจ่าย 8 บ่อ ราคา 2000 เยนครับ ต่อจากนี้ขออนุญาตลงรูปจากบ่อน้ำพุนรกเลยนะครับ  (สามารถคลิกที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่ได้นะคร๊าบ)

IMG_0191 IMG_0186 IMG_0174 IMG_0173 IMG_0172 IMG_0159 IMG_0153 IMG_0151 IMG_0142 IMG_0136 IMG_0139 IMG_0200

หลังจากเยี่ยมชมน้ำพุนรกเสร็จ เราก็เดินทางกลับมาที่ Beppu Station เพื่อเตรียมเดินทางไปต่อที่ภูเขาไฟ Aso นะครับ ก่อนจากเราก็ขอถ่ายรูปคู่กับบุคคลผู้ซึ่งนำความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับเมือง Beppu สักหน่อย เดินทางมาถึงหน้าสถานี ก็เจอกับคนไทยพอดีเลยครับ ซึ่งเค้าได้วานพวกผมให้ถ่ายรูปให้ แล้วเค้าก็ถ่ายรูปพวกผมกลับคืน ฮ่า ๆ

10009886_4055704409204_1903271460_n

หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ Limited Express จากเมือง Beppu ส่งตรงถึงสถานี Aso เลยครับ แต่เนื่องจากเหนื่อยมาก ขึ้นรถไฟได้เลยหลับกันเป็นแถว ไม่มีรูปถ่ายบรรยากาศมาให้เห็น ฮ่า ๆ ภาพตัดกลับมาอีกทีเราเดินทางมาถึงสถานี Aso แล้วครับ หลังจากนั้นก็ทำการเช่า Coin Locker แล้วทำการซื้อตั๋วรถเพื่อขึ้นไปยอดภูเขาไฟกันครับ . . . แต่ก็มีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราขึ้นรถเมล์ผิดคันครับ โอ้ว นึกขึ้นได้ จึงขอลงป้ายถัดไปเลยครับ แล้วเดินย้อนกลับมาที่สถานีเดิม ระหว่างทางเดินก็ได้ถ่ายรูปเล่นเก็บมาครับ บรรยากาศการเดินกลับสู่สถานี ฮ่า ๆ

IMG_0213

ทีนี้ไม่พลาดแล้ว ดูเวลาให้ตรงพอดีเป๊ะ ขึ้นไปรถก็ใช้สกิลนิ้วเลยครับ ชี้ไปที่บัตรที่ซื้อมากับคนขับ คนขับตอบกลับมาว่า โอเค เสร็จเรา ขึ้นคันนี้ไม่หลงแน่ เราก็ได้นั่งยาวขึ้นไปสู่ยอดเขา Aso เลยครับ พอมาถึงยอดเขา Aso เราต้องนั่งกระเช้าต่อเพื่อไปที่ปากปล่องภูเขาไฟ แต่ว่า กระเช้าปิดปรับปรุงครับ 🙁 แต่ว่ามีบริการรถขึ้นไปส่งที่ปากปล่องเหมือนกัน ราคา 1000 เยน โอเคครับ มาถึงขนาดนี้แล้ว เราก็ได้ขึ้นไปสู่ปากปล่องภูเขาไฟ Aso อันเรื่องชื่อว่ายังประทุอยู่ตลอดนะครับ

(Update เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2558 ภูเขาไฟอะโสะได้ทำการปะทุไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ  http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000103759)

IMG_0275

IMG_0239

พอขึ้นถึงปากปล่องภูเขาไฟ ก็พบป้ายเตือนเลยครับ ว่าพื้นที่นี้มี แก๊สพิษสูงนะครับ ผู้ที่มีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจไม่ควรมานะครับ บนปากปล่องภูเขาไฟนี้ ลมแรงมากครับ และก็กลิ่น แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์ก็แรงมากเช่นเดียวกัน แต่เพื่อการเดินทางแล้ว เราพร้อมที่จะลุยครับ ฮ่า ๆ เดินทางไปเยี่ยมชมปากปล่องภูเขาไฟ พอดีมีทัวคนเกาหลีมาลงครับเลยหามุมถ่ายปากภูเขาไฟยากหน่อย ซึ่งควันที่ลอยออกจากปล่องภูเขาไฟเหมือนก้อนเมฆเลยครับ ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไรเลย

IMG_0251

IMG_0261

พอดูจนอิ่มใจแล้วก็นั่งรถลงมาที่สถานี Aso เพื่อรอรถไฟเดินทางต่อไปเมือง Kumamoto ครับ เช่นเคย ยืนรอรถเมล์ทีหน้าทางขึ้นกระเช้าเพื่อกลับสื่อสถานี เดินทางได้ประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสถานีครับ รอบนี้เราจะนั่งรถไฟหวานเย็นจาก Aso ไปยังเมือง Kumamoto ซึ่งรถไฟหวานเย็นนี้ถือว่าเป็นรถไฟที่ช้าที่สุด (แต่ยังเร็วกว่ารถไฟบ้านเรานะ ผมว่า ฮ่า ๆ)

IMG_0282

IMG_0288

IMG_0297

ขึ้นนรถไฟหวานเย็นได้ เราก็หลับเลยครับ เหนื่อยจากการเดินทางที่ ออกซิเจนเบาบาง ฮ่า ๆ หลับ ๆ ตื่น ๆ สัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่มี เล่นเฟสบุ๊คไม่ได้ ได้แต่ นอน ดูวิวข้างทางไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเราก็มาถึงสถานี Kumamoto ครับ เป็นเมืองที่ค่อนข้างครึกครื้นอยู่บ้าง หลังจากลงรถหวานเย็น เราก็ต้องทำการนั่งรถรางรอบตัวเมืองเพื่อไปลงแถว ๆ โรงแรมที่เราพักนะครับ

IMG_0301

โดยรถรางนี้ราคา 120 เยนตลอดทั้งสายครับ วิธีการจ่ายเงินเหมือนกับการขึ้นรถเมล์ คือไปแลกเหรียญแล้วหยอดลงไป 120 เยนครับ หลังจากนั้นก็เดินทางหาโรงแรมครับ ค่ำคื่นอันเงียบสงบ อุณหภูมิประมาณ 10 องศา กับการแบกของเดินทางตามหาโรงแรม ค่อนข้างถึกพอตัวเลย ฮ่า ๆ บรรยากาศ ณ ตอนนี้เงียบสงบดีครับ ต่างกับตรงสถานีรถไฟที่คนจะครึกครื้นมาก หรือเป็นเพราะดึกแล้วก็ไม่รู้ สุดท้ายเราก็มาถึงโรงแรมครับ

IMG_0302

IMG_0307

การเดินทางของเราในวันนี้จบลงที่โรงแรมนี้ครับ โรงแรม Hotel Dormy Inn เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว แต่ค่อนข้างหรูหรามากครับ ห้องเล็กไปหน่อย แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีครบเลย การเดินทางวันที่ 2 ของเราจบเพียงเท่านี้ครับ นอนพักผ่อนเอาแรง เตรียมตื่นตอนเช้ามาชมดอกซากุระที่ปราสามคุมาโมโต้ต่อในวันรุ่งขึ้น  ติดตามตอนต่อไปได้ เร็ว ๆ นี้ครับ

つづく