สวัสดีก๊าบเพื่อนๆ หลังจากที่ผมได้พูดถึงความรู้สึกตอนงานเปิดตัวรายการ DokiDoki Japan! กันไปเมื่อสัปดาก่อน จนถึงตอนนี้รายการได้ออนแอร์เทปแรกกันไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความตื่นเต้นของทั้งผมและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่รอคอยรายการนี้กันมานานแสนนานฮะๆ แต่ที่ผ่านๆมาอาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องของรายการได้อย่างละเอียดนัก เพราะติดที่รายการยังไม่ได้เริ่มออนแอร์เลย แต่วันนี้… ผมสามารถเผยไต๋รายละเอียด รวมถึงมีเรื่องอยากเล่าเกี่ยวกับรายการนี้ให้เพื่อนๆได้ฟินกันก๊าบบบ!

thailand-comic-con-2014-group

เล่าให้ฟังตอนเริ่มโปรเจ็คนี้กันก่อน เนื่องจากว่าผมเป็นคนชอบญี่ปุ่น ชอบเทคโนโลยี ชอบเกม ชอบการ์ตูน ชอบของเล่น ชอบอาหาร ชอบวัฒนธรรม ชอบไปหมดทุกอย่างที่เป็นญี่ปุ่น เลยอาจจะมีแรงดึงดูดให้พบเจอแต่เรื่องราวของประเทศนี้ตลอดก็ว่าได้ จนปีนี้ได้รับโอกาสจากพี่เอก (คุณชาญวิทย์) ให้รับหน้าที่พิธีกรของงาน Thailand Comic Con ช่วงกลางปี และหลังจากงานนี้ก็ได้มีโอกาสร่วมโปรเจ็คมันๆอีกหลากหลาย รวมไปถึงรายการ DokiDoki Japan! นี้ด้วยล่ะก๊าบ บอกได้เต็มปากเลยว่าตอนจะรู้ว่าได้มาเป็นพิธีกรของรายการนี้ อยากจะกรี๊ดสลบลงไปกองกับพื้นเลยก๊าบ แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนเงียบ นิ่ง และหล่อ (หรอ?) ผมจึงทำแบบนั้นไม่ได้ อิอิ นี่มันคือหนึ่งความฝันของผมชัดๆที่อยากจะเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น พูดตรงๆว่าทำรายการมาเยอะมากหลากหลายรูปแบบ แต่รายการแบบนี้แหละที่ผมใฝ่ฝันที่จะได้ทำ! ต้องขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้อง,พี่ๆ,เพื่อนๆ,น้องๆ, และพี่เอกเป็นอย่างสูงที่ทำให้ความฝันนี้เป็นจริงก๊าบ ^^

dokidoki-japan-01

ทีนี้มาถึงเทปแรกที่ได้ถ่ายทำกันดีกว่า กับเทป Akihabara สำหรับที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ีที่เพื่อนๆชาวไทยอยากมา เพราะเป็นศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า การ์ตูน เกม ของเล่น และไอดอลก็ว่าได้ก๊าบ แต่รายการนี้มาทั้งทีจะให้พาไปสถานที่ที่ธรรมดาได้อย่างไรกันจริงไหม?

อันดับ 3 ที่ทาง Yumemiru Adolescence (YumeAdo) พาไปนั่นก็คือร้าน Nadeshiko Sushi ซึ่งเป็นร้านซูชิร้านเดียวในประเทศญี่ปุ่น ที่เชฟเป็นสุภาพสตรี โอ้ว! ได้ความมาว่าที่มีแต่เชฟผู้ชายก็เพราะอุณภูมิร่างกายของผู้หญิงนั้นสูงกว่าผู้ชาย เวลาปั้นซูชิ ปลาที่ปั้นจะไม่สดเท่าผู้ชายปั้นนั่นเอง แต่ร้านนี้เค้ามีเทคนิคพิเศษที่สามารถปั้นได้เร็วกว่าปกติ ทำให้ตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้เลยก๊าบ เพราะผมพิสูจน์มาแล้วว่าอร่อยก๊าบ โดยได้กินชุด Omakase (ชุดแนะนำ) ของทางร้าน เป็นซูชิปลาดิบรวมหลายๆอย่าง ต้องบอกว่าอร่อยเลยทีเดียวก๊าบ แต่สิ่งที่เพลิดเพลินกว่าคือการนั่งกินไปดูเชฟผู้หญิงปั้นไปด้วย โอ้ววว มันบรรยายไม่ถูกจริงๆก๊าบบบบ ร้านซูชิส่วนมากดูตึงเครียด แต่ร้านนี้ให้บรรยากาศแบบเป็นกันเอง สบายๆ ดีฮะ ชอบ!

dokidoki-japan-tape01-01

dokidoki-japan-tape01-02

dokidoki-japan-tape01-03

dokidoki-japan-tape01-04

อันดับ 2 Mononopu Maid Cafe ซึ่งเป็นร้านเมดคาเฟ่ที่มีธีมเป็นยุคสงครามกลางเมืองในอดีตกาล (Sengoku) ตัวร้านหายากพอสมควรเพราะอยู่บนตึก โดยร้านนี้ได้มีโอกาสนั่งห้อง VIP ห้องทองเลยก๊าบบบ ปกติในยุคสมัยนั้น มันเป็นห้องน้ำชาที่ทางเจ้าบ้านต้อนรับแขกคนสำคัญก๊าบ แน่นอนว่าทางร้านมีธีมแบบนี้ ชุดที่น้องเมดใส่คงไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะเป็นชุดที่ดีไซน์ผสมผสานเกราะของนักรบเข้าไปด้วย มาในโทนสีม่วง + ชมพู ทำให้ดูหวานแหววไม่เบาเลยทีเดียวล่ะจ้า ส่วนเมนูที่ได้กินที่ร้านเป็นเมนูชุดออกรบ (เฉพาะผู้ที่มาร้านนี้ครั้งแรกเท่านั้นที่สั่งได้) เมนูหลักจะเป็นข้าวห่อไข่ที่น้องเมดจะมาวาดรูปโดยใช้ซอสมะเขือเทศให้ เสิร์ฟพร้อมน้ำ และชูครีมรูเล็ต! เหมือนชูครีมธรรมดาแต่จะมีอยู่ลูกนึงใส่วาซาบิไว้ข้างใน ให้เราเลือกกับเพื่อนๆและน้องเมดกินกันคนล่ะลูก แล้วลุ้นกันว่าใครจะโดน! ไม่ต้องเดาเลยก๊าบ โดนไปเต็มๆชูครีมใส่วาซาบิไว้ข้างหน้า กรี๊ดดดดดสลบหาน้ำแทบไม่ทันเลยฮะๆ เรียกว่าประทับใจกันไปก๊าบร้านนี้

dokidoki-japan-tape01-05

dokidoki-japan-tape01-06

อันดับ 1 คงไม่ต้องบอกถึงความฟินของผม เพราะอันดับ 1 นี้ ผมชอบมากกกกก! และสมแล้วที่ YumeAdo เลือกให้เป็นอันดับที่ 1 จริงๆ! โดนใจผมไปเต็มๆเลย นั่นก็คือ Akiba Cart ร้านให้เช่ารถโกคาร์ท ที่สามารถขับไปไหนก็ได้บนถนนจริงๆของญี่ปุ่น! OMG! ก่อนจะออกถนน เค้าจะมีการสอนขับกันก่อนว่าอะไรทำอะไร และเน้นย้ำให้รักษากฏจราจร เพราะถ้าผิดกฏตำรวจจับได้นะจ๊ะฮะๆ เสร็จปั้ปก็ออกถนนปุ้ป โกคาร์ทนี่แรงไม่ใช่เล่นเลย สามารถเหยียบทำความเร็วได้ถึง 60-70 km/hr เลยทีเดียวก๊าบ มันเร็วกว่าที่คิดเพราะก้นเราอยู่ติดพื้นถนนมากๆ ลมตีหน้าเย็นสุดๆ แถมจะขับไปไหนก็มีแต่คนมอง ยิ่งในรายการโดน Karin เอาหมวกภูเขาไฟฟูจิมาให้ใส่ด้วยแล้วเนี่ย อีาคคค! ทุกคนหยิบมือถือมาถ่ายรูปตลอดทางเลยก๊ากๆๆๆๆ นอกจากหน้าที่ชาเพราะลมตีหน้าแล้ว ยังด้านอีกด้วย เพราะไปถ่ายรูปกับเค้าไปทั่ว Akihabara ฮะๆ ฟินกันไป และสำหรับใครที่อยากจะมาขับแบบผม ขอเพียงมี passport กับใบขับขี่สากล แค่นั้นพอก๊าบ เอ้ย! พกเงินไปด้วยนะก๊าบ ประมาณ 2,900 เยนต่อชั่วโมงเท่านั้นเองจ้า คุ้มสุดๆไปเลย!

dokidoki-japan-tape01-07

dokidoki-japan-tape01-08

ส่วนการถ่ายรายการเทปแรกกับน้องๆวง YumeAdo ต้องขอชมว่าน้องๆมีการเตรียมทำการบ้านมาอย่างดี เนื่องจากการทำรายการร่วมกับคนที่ไม่พูดภาษาเดียวกันนั้นยากมากกกกกกกกกกก นอกจากต้องใช้เวลาเพิ่ม ต้องมีจังหวะที่แปลกออกไป และต้องใช้สมาธิที่ฟังหลายๆภาษาด้วยแล้วเนี่ย น้องๆทำได้ดีมากก๊าบ และที่สำคัญคือความเป็นกันเองระหว่างทุกคนในกองถือว่าสำคัญ ถ้าเราสื่อสารกันได้ง่ายๆจากประสบการณ์ผมบอกได้เลยว่าไม่ยาก แต่ถ้าพูดกันคนล่ะภาษาผมว่าทั้งในกอง นอกกอง การพูดคุยกับผู้ร่วมงาน ทีมงาน นั้นสำคัญยิ่งนัก หากทุกคนเฟลนลี่โดยเอาการทำงานเป็นที่ตั้ง และตั้งใจทำงาน ผมว่าไม่มีการทำงานไหนเป็นเรื่องยากอย่างแน่นอนก๊าบบบบบ จุดนี้บอกตรงๆว่าน้องๆสอบผ่านก๊าบบบ!! และทุกคนที่ได้ดูรายการก็คงจะบอกได้ว่าทุกคนดูสนุกขนาดไหนจริงไหมล่ะก๊าบ? ^^

สำหรับเทปแรกผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่รู้ว่าเทปอื่นๆจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า? เย้ยยยย! ไม่ซิมันต้องสนุกอย่างแน่นอนจริงไหมเพื่อนๆ อิอิ ฝากติดตามกันด้วยกันนะก๊าบ สำหรับรายการ DokiDoki Japan! ทุกวันเสาร์ เวลา 16:00 น.ทางช่อง MCOT พวกเราทุกคนทั้งทีมงานเบื้องหลัง น้องๆ YumeAdo และพิธีกรคู่อย่างมิกิ ที่ตั้งใจเต็มที่กับรายการนี้ทั้งทางฝั่งญี่ปุ่น และฝั่งไทยเอง เพราะฉะนั้นพวกเราจะต้องมาฟินกันทุกสัปดาเลยนะ เฮ้!!!!!!!!!!!! ขอบคุณทุกคนมากๆก๊าบบบบบ!